ปัจจุบัน ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก หลั่งไหลเข้ามาทำงานในบริษัทต่างชาติหรือประกอบธุรกิจกิจการภายในราชอาณาจักรไทยกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่มักประสบกับปัญหาในทำเรื่องขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) andvisaในราชอาณาจักรไทย ที่มีขั้นตอนรายละเอียดซับซ้อนมากมาย ส่งผลให้บริษัทต่างชาติและพนักงานต่างชาติต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากพนักงานต่างชาติและนักลงทุนต่างชาติตัดสินใจขอใช้ SMART Visa แทนการร้องขอวีซ่าทำงานแบบทั่วไป
SMART Visa คืออะไร?
SMART Visa คือวีซ่าทำงานประเภทหนึ่งที่กำหนดขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดให้ชาวต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุน เสริมทักษะ หรือเข้ามาทำงานภายในราชอาณาจักรไทย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยนวัตกรรม และยกระดับความน่าดึงดูดของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติทั่วโลกด้วย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักลงทุน ผู้ประกอบการ ผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญทักษะระดับสูง รวมถึงกลุ่มผู้ติดตามหรือครอบครัวของชาวต่างชาติเหล่านั้น สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการดึงดูดเข้ามาเป็นพิเศษจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve อันประกอบไปด้วย
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
- อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กลุ่มรายได้ดี และเชิงสุขภาพ
- อุตสาหกรรมดิจิทัล
- อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
- อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
- อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
- อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
- อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
- อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร
- การบริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก
- การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
SMART Visa มีกี่ประเภท และต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?
- SMART “T”
SMART Visa สำหรับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาทิ นักวิจัย นักพัฒนาโปรแกรม วิศวกรฮาร์ดแวร์ วิศวกรสาขาต่าง ๆ และนักพัฒนาแอปพลิเคชัน เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการร้องขอ SMART Visa “T”
- ต้องเป็นชาวต่างชาติที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่าหรือเทียบเท่า 200,000 บาทต่อเดือน โดยไม่รวมค่าตอบแทนอื่น ๆ
- มีสัญญาจ้างงาน หรือสัญญาบริการอย่างน้อย 1 ปี และต้องเป็นกิจการที่ว่าจ้างที่ได้รับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐ (S-Curve) ด้วย
- มีหนังสือรับรองความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานรัฐที่มีความน่าเชื่อถือ
- SMART “I”
SMART Visa ที่เหมาะสำหรับนักลงทุน หรือชาวต่างชาติที่ดำรงตำแหน่งประธานหรือสมาชิกคณะกรรมการในบริษัทที่มีกิจการตรงตามอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐ (S-Curve)
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการร้องขอ SMART Visa “I”
- นักลงทุนที่มีการลงทุนในนามบุคคลไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาทในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ซึ่งสามารถลงทุนได้มากกว่าหนึ่งกิจการ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องลงทุนในกิจการนั้น ๆ ต่อตลอดระยะเวลาถือ SMART Visa “I”
- มีหนังสือรับรองการจัดตั้งหรือรับการลงทุนโดยหน่วยงานรัฐ ซึ่งต้องเป็นการลงทุนในกิจการที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานในกระบวนการผลิตหรือการให้บริการและเป็นธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
- SMART “E”
SMART Visa สำหรับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ทำงานในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve)
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการร้องขอ SMART Visa “E”
- ต้องเป็นชาวต่างชาติที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่าหรือเทียบเท่า 200,000 บาทต่อเดือน โดยไม่รวมค่าตอบแทนอื่น ๆ
- มีประสบการณ์ทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 ปี
- มีสัญญาจ้างงานกับกิจการในไทยหรือกิจการในต่างประเทศที่มีการกำหนดให้ทำงานภายในราชอาณาจักรไทย และสัญญาจ้างงานต้องมีการระบุระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
- กิจกรรมว่าจ้างต้องได้รับการรับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐ
- SMART “S”
SMART Visa สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นหรือเจ้าของบริษัทสตาร์ตอัปในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐที่ต้องการเข้ามาดำเนินกิจการภายในราชอาณาจักรไทย
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการร้องขอ SMART Visa “S”
- ต้องมีเงินฝากประจำในบัญชีเทียบเท่าหรือไม่น้อยกว่า 600,000 บาท โดยมีระยะเวลาเหลืออีกไม่น้อยกว่า 1 ปี
- กรณีที่ผู้ร้องขอมีคู่สมรสหรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องมีเงินฝากประจำในบัญชีเทียบเท่าหรือไม่น้อยกว่า 180,000 บาท โดยมีระยะเวลาเหลืออีกไม่น้อยกว่า 1 ปี ต่อคน
- ทั้งผู้ร้อง SMART Visa และครอบครัวทุกคนต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่พำนักภายในประเทศไทย
- ผู้ร้องขอต้องดำเนินการจัดตั้งกิจการภายในระยะเวลา 1 ปี หลังจากได้รับการรับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐ
- มีหนังสือรับรองการเข้าร่วมโครงการหรือร่วมลงทุนโดยหน่วยงานภาครัฐ
- SMART “O”
SMART Visa สำหรับผู้ติดตามหรือครอบครัว (คู่สมรสหรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย) ของผู้ที่ได้รับสิทธิ์ SMART Visa (Spouse and Children)
สิทธิประโยชน์ที่ SMART Visa ให้ได้มากกว่า Non-B Visa
โดยปกติแล้ว ผู้ที่ถือ SMART Visa จะได้รับสิทธิ์สามารถลดชำระภาษีได้ แต่สิทธิประโยชน์ของ SMART Visa แต่ละประเภทยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ดังนี้
- ผู้ถือ SMART Visa ไม่ต้องรายงานตัวทุก ๆ 90 วัน ที่ ตม. ใกล้ที่พักอาศัยอีกต่อไป แต่สามารถรายงานตัวปีละ 1 ครั้ง ได้ที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (OSS) แทน
- ผู้ถือ SMART Visa สามารถดำเนินการเข้าออกราชอาณาจักรไทยได้ไม่จำกัดครั้ง และไม่ต้อง Re-entry ก่อนออกนอกประเทศเหมือนวีซ่าทำงาน (Non-B Visa)
- ผู้ถือ SMART Visa ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) รวมถึงยังได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทยได้ครั้งละไม่เกิน 4 ปี ซึ่งต่างจากวีซ่าทำงานที่มีระยะอนุญาตเพียงแค่ 1 ปี และต้องขอใบอนุญาตทำงานใหม่หรือต่ออายุทุก 1 ปี
- ครอบครัว (คู่สมรสหรือบุตร) และผู้ติดตามผู้ถือ SMART Visa สามารถติดตามเข้ามาพำนักภายในราชอาณาจักรไทยได้ และยังสามารถทำงานในประเทศไทยได้ด้วยโดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน ในขณะที่ครอบครัวหรือผู้ติดตามที่ถือวีซาทำงาน (Non-B Visa) หากต้องการทำงานจะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานเสียก่อน
- สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือ SMART Visa ในการเข้าออกนอกประเทศไทย สามารถใช้ช่องทางพิเศษ (Fast-Track) ได้ แต่ผู้ที่ถือวีซ่าทำงานทั่วไปต้องเข้าทางช่องทางปกติเหมือนบุคคลอื่น ๆ
company Lawyer V-Work offers comprehensive visa and work permit services for foreigners of all nationalities.
Lawyer V-Work Company We are a company.visa ทำงาน และรับทำ Work Permit รับทำใบอนุญาตทำงาน รับทำวีซ่าให้กับชาวต่างชาติแบบครบวงจร พร้อมบริการทางด้านกฎหมาย ซึ่งดำเนินการด้วยทีมนักกฎหมายมืออาชีพที่มีประสบการณ์มานานกว่า 12 ปี โดยทางบริษัทนั้นได้มีการให้คำแนะนำสำหรับชาวต่างชาติ ที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยมาแล้วหลากหลายประเทศ ไม่ว่าท่านจะร้องขอ SMART Visa หรือวีซ่าทำงานประเภทใดก็ตาม ทางเราก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้ในทุกขั้นตอนอย่างเต็มที่ รับประกันความถูกต้องรวดเร็วในการทำงาน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE: @v-work